วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

ทอง ๙




ทอง ๙

แนวละคร แอ็คชั่น
บทประพันธ์ ภูมิแผ่นดิน
บทโทรทัศน์ ภูมิแผ่นดิน
กำกับการแสดง ฉลอง ภักดีวิจิตร


เรื่องย่อ

กริช หนุ่มใหญ่วัยใกล้ 30 ปี มีความฝันอยากเป็นตำรวจ เขาอาศัยอยู่วัดแห่งหนึ่งในพัทยา กับหลวงพ่อที่เป็นญาติทางพ่อ เพื่อใช้เวลาอ่านหนังสือ และดูแลหลวงพ่อที่สุขภาพไม่ค่อยดี พ่อของเขาเป็นนายทหารนอกประจำการชื่อ พันตรีวัลลภ เคยไปร่วมรบที่เวียดนาม มันเป็นความภูมิใจของเขาที่มีพ่อเป็นวีรบุรุษ กริชมีฝีไม้ลายมือในการชกมวยไทย และมักแอบไปชกมวยเถื่อนพนันเงิน เพื่อหาเงินมาจุนเจือวัดและรักษาหลวงพ่อ โดยมี โจอี้ เพื่อนรักเป็นผู้ชักนำ โจอี้มีนิสัยกะล่อนหากินกับฝรั่งไปวันๆ แต่เป็นคนดี

วันหนึ่งมีกลุ่มคนร้ายนำโดย พันเอกเลดิ๊กโท หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับแห่งสภาความั่นคงเวียดนามเหนือ ภายใต้การบัญชาการของ นายพลเลวันเดื๊อก โดยมี บินห์ซวน และเบาได๋ เป็นลูกน้องคนสนิท และได้บุกไปฆ่าพ่อแม่ของกริชที่บ้านที่จังหวัดอุดรธานี พวกเขาค้นหาอะไรบางอย่างแต่ไม่เจอจึงเผาบ้านทำลายหลักฐาน พ่อแม่กริชจึงตายในกองเพลิง แม้ว่าจะมี ร้อยตรีมินห์ ซีไอเออเมริกันเชื้อชาติเวียดนามมาช่วยแต่ก็ไม่ทันการ สิ่งเดียวที่พ่อของกริชทิ้งไว้ให้คือสร้อยคอที่คล้องพระองค์ใหญ่สมัยที่เคยสวมตอนรบ กริชเสียใจมากและคิดว่าต้องหาคนที่ฆ่าพ่อเขาให้ได้

มิเชล สาวลูกครึ่งเวียดนามฝรั่งเศสมีอาชีพเป็นแอร์โฮสเตส ขณะที่เครื่องกำลังจะลงมีผู้โดยสารลวนลามเธอจนมีเรื่องมีราว เธอจึงขอลาพักร้อนและมาเยี่ยม นายพลเหงียนวันตรี ซึ่งเป็นปู่แต่ปกปิดชื่อจริงเอาไว้ โดยใช้ชื่อว่า ลุงโฮแทน และเป็นญาติของเธอคนเดียวที่มีเหลืออยู่ เพราะพ่อแม่ตายตั้งแต่เธอยังเล็กเธอจึงผูกพันกับปู่มาก ที่ชุมชนบ้านญวนซึ่งเป็นชุมชนของพวกเวียดนามใต้ที่อพยพมา ตอนที่ไซ่ง่อนแตกครั้งสงครามเวียดนาม โดยมีเหงียนวันตรีเป็นผู้นำและได้สร้างโบสถ์คาทอลิกไว้ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ

มี บาทหลวง ซึ่งเป็นเพื่อนของเหงียนวันตรีคอยดูแล พันเอกฮอฟกินส์ ซีไอเอ กับลูกน้องคือ จ่าแมคคอยด์ และร้อยตรีมินห์ ปรากฏตัวขึ้นที่หน่วยข่าวกรองของไทย และได้มาพบกับ พ.ต.อ.พิชิต ซึ่งเป็นผู้อำนวยการอยู่ เพื่อต้องการตามหานายพลเหงียนวันตรี ที่เคยร่วมรบด้วยกันสมัยเวียดนาม เพราะมีข่าวว่าทางรัฐบาลเวียดนามปัจจุบัน ต้องการจับตัวไปขึ้นศาลในฐานะอาชญากรสงคราม พันตำรวจพิชิตจึงให้ ร.ต.อ.อิสรา และร.ต.ต.กรณ์ ไปช่วยประสานงานในการสืบหา รวมทั้งไปคอยคุ้มกันมิเชลที่ไปพักผ่อนที่พัทยาด้วย แพรว นักร้องคาเฟ่ลูกครึ่งไทยนิโกรแห่งเมืองโคราช

ที่วาดหวังจะโกอินเตอร์มีพ่อเป็นจีไอชื่อ จ่าวัตสัน ซึ่งเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ยังต้องร้องเพลงในคาเฟ่ราคาถูกเลี้ยงชีวิตไปวันๆ เพราะสมบัติอย่างเดียวที่พ่อทิ้งไว้ให้คือสายสร้อยมีไม้กางเขนรูปทรงประหลาดห้อยคอไว้ เพราะเธอถูกลวนลามจากเสี่ยจึงจำต้องหนีขึ้นรถขนผัก และมาโผล่ที่พัทยาโดยบังเอิญ ขณะที่เธอเดินไปตามถนนเห็นพ่อครัวชาวเวียดนามชื่อ ฟามวันเทียว ได้ตกลงมาจากตึกและเสียชีวิตต่อหน้าเธอ เธอจึงต้องตกเป็นพยานและได้รู้จักกับ มายด์ ลูกสาวของฟามวันเทียว ซึ่งต้องดูแลกิจการแทนพ่อ

ทางกองปราบฯ ได้ส่ง ผู้กองธันวา มาคลี่คลายคดี ธันวาจึงได้รู้จักกับแพรว และมายด์ได้แนะนำให้รู้จักกับโจอี้ซึ่งเป็นแฟนของเธอ และกริช ธันวารู้สึกถูกชะตากับทุกคนจึงสอนการยิงปืนให้ และทั้งหมดได้ช่วยกันคลี่คลายปมสังหารในครั้งนี้ เมื่อสืบไปเรื่อยๆ จึงพบว่าคนที่ตายล้วนแต่เคยร่วมรบในเวียดนามทั้งนั้น อีกทั้งเลดิ๊กโทได้นำพวกมาไล่ล่ากลุ่มของกริช จนต้องอพยพหนีมาอยู่ที่กรุงเทพชั่วคราว ที่พัทยากริชได้รู้จักกับมิเชลโดยบังเอิญ เมื่อมากรุงเทพมายด์ก็พามาหาเจ้านายเก่าของพ่อเธอที่ชุมชนบ้านญวน ปรากฏว่าเจ้านายเก่าของพ่อเธอคือนายพลเหงียนวันตรี

ที่เคยเป็นผู้บังคับบัญชาพ่อของเธอในครั้งสงครามเวียดนาม มายด์กับแพรวจึงมาอาศัยอยู่ที่นี่กับมิเชลชั่วคราว ทำให้กริชได้ใกล้ชิดมิเชลมากขึ้น ทางฝ่ายนายพลเลวันเดื๊อกก็ส่งผู้พันเลดิ๊กโทออกตามหาเหงียนวันตรีเช่นกัน จนชักจะเข้าใกล้ตัวเหงียนวันตรีเข้าทุกที จนกระทั่งเหงียนวันตรีต้องออกอุบายให้ลูกน้องเก่ามาชิงตัวไปและหลบซ่อนอยู่ ทุกฝ่ายจึงออกตามหาเหงียนวันตรีกันอย่างพลิกแผ่นดิน และในที่สุดฝ่ายของกริชก็สามารถพบนายพลเหงียนวันตรีและนำมาพักที่บ้านพิชิต ระหว่างนี้ฮอฟกินส์กับเลดิ๊กโทได้จับมือกัน

เรื่องราวเกี่ยวกับทองจึงถูกเฉลยขึ้น เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมาก่อนที่ไซ่ง่อนจะแตก ฮอฟกินส์ซึ่งมียศเป็นร้อยโทในสมัยนั้นได้รับคำสั่งให้นำกำลังผสมเฉพาะกิจ ประกอบด้วยจ่าวัลลภพ่อของกริช จ่าวัตสันพ่อของแพรว ได้มารวมกำลังกับนายพลเหงียนวันตรี ที่มีฟามวันเทียวพ่อของมายด์เป็นคนสนิท ไปดักปล้นทองคำมูลค่ามหาศาลที่กองทัพเวียดนามเหนือ นำโดยผู้พันเลวันเดื๊อกได้ขนจากธนาคารกลางในไซ่ง่อนไปฮานอย ที่เมืองดานัง ในการปล้นครั้งนั้นฮอฟกินส์ได้กุญแจเปิดเซฟไปสองดอก แล้วแบ่งให้จ่าวัตสันถือไว้หนึ่งดอก

ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าหลังจากที่ทุกคนหลบหนีจ่าวัตสันได้หักกุญแจออกเป็นสองท่อนแบ่งให้จ่าวัลลภเพื่อนรักเก็บไว้ ส่วนรถขนทองคำฟามวันเทียวได้ขับพานายพลเหงียนวันตรี ฝ่าออกมาแล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอยจนทุกวันนี้ ทางฝ่ายผู้พันเลวันเดื๊อกก็ได้แต่เก็บรหัสเปิดเซฟเอาไว้ เหงียนวันตรีได้เล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้ทุกคนฟัง ในขณะที่ฮอฟกินส์เล่าให้เลดิ๊กโทฟัง เลดิ๊กโทจึงวางแผนมาชิงรหัสเปิดเซฟจากนายพลเลวันเดื๊อก แต่ช้าไปเพราะว่ามินห์ซึ่งได้แปรพักต์จากฮอฟกินส์ได้มาชิงไปก่อน อีกด้านหนึ่งบินห์ซวนลูกน้องของเลดิ๊กโทก็ไปลักพาตัวนายพลเหงียนวันตรีที่บ้านพิชิต

แต่พลาดทำให้เหงียนวันตรีล้มสมองได้รับการกระทบกระเทือนกลายเป็นเจ้าชายนิทราไป ความลับของที่ซ่อนทองจึงมีท่าทีว่าจะต้องเป็นความลับไปชั่วกัลปวสาน แต่แล้วเหงียนวันตรีก็ละเมอออกมาว่า "ซอ" ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาผูกพันมากที่สุดพอๆ กับมิเชล ทุกคนจึงพยายามค้นหาปริศนาจากซอ แต่ไม่สามารถพบอะไร และเพื่อความปลอดภัยบาทหลวงจึงแอบเอาเหงียนวันตรีมารักษาที่ห้องลับในโบสถ์ เพราะมีความหวังอย่างมากว่าเหงียนวันตรีจะฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ฮอฟกินส์นำกุญแจออกมาให้เลดิ๊กโทดู พร้อมกับมินห์ได้ทำตัวเป็นคนลึกลับมาร่วมมือกับเลดิ๊กโท

และเสนอรหัสให้ไปหนึ่งชุดและเก็บเอาไว้หนึ่งชุด แล้วเฉลยว่ามินห์คือลูกเลี้ยงที่นายพลเลวันเดื๊อกเก็บมาเลี้ยงและเอาไว้ใช้งาน ธันวาปล่อยข่าวว่ากริชกับแพรวมีกุญแจอยู่ ฮวนลูกน้องเก่าของเหงียนวันตรีจึงมาชิงกุญแจจากกริชไป ส่วนบินห์ซวนก็มาชิงกุญแจจากแพรวและจับแพรวกับมายด์ไป ทำให้โจอี้แค้นกริชจึงกระชากคอเสื้อกริชจนพระที่คล้องคอไว้ขาด และตกลงบนพื้นแตกกระจายทำให้เห็นว่ามีส่วนหัวของกุญแจที่หักอยู่ในนั้น และมีข้อความสั้นๆ เขียนไว้ในกระดาษว่า จ่าวัตสัน ทั้งหมดจึงรู้ว่าอีกส่วนอยู่ที่แพรว

เมื่อทุกคนไปช่วยแพรวออกมาได้จึงรู้ว่าไม้กางเขนที่จ่าวัตสันทิ้งไว้ให้แพรว ก็คืออีกส่วนหนึ่งของกุญแจนั่นเอง ฮอฟกินส์กับเลดิ๊กโทตามจนมาเจอนายพลเหงียนวันตรี แล้วคุมตัวไว้ถ้าหากไม่มีใครบอกที่ซ่อนเหงียนวันตรีต้องตาย ทุกคนจึงพยายามคิดปริศนาจากซอ แต่ก็ไม่ได้ผลจนกระทั่งมิเชลโมโหเอาซอฟาดกับฝาผนังจนแตกหมด แพรวจึงสังเกตเห็นว่าที่หนังหุ้มซอมีข้อความเขียนอยู่ โดยบอกที่ซ่อนของทองซึ่งถูกฝังอยู่ใต้โบสถ์นั่นเอง ทุกฝ่ายจึงมารวมกันแล้วเปิดพื้นลงไปพบว่าทองถูกฝังไว้ลึกประมาณ 50 เมตร

ฮอฟกินส์จึงสั่งให้กริช โจอี้ ธันวา มิเชล แพรว และมายด์ลงไปขน แต่เมื่อขนเสร็จฮอฟกินส์ก็ปิดฝาข้างบนขังทุกคนไว้ในห้องใต้ดิน ซึ่งไม่มีโอกาสที่จะออกมาได้ แต่ด้วยความฉลาดของกริช เขาคิดว่านายพลเหงียนวันตรีจะเอาตู้คอนเทรนเนอร์ใบใหญ่ขนาดนี้ลงมาได้อย่างไร ในที่สุดเขาก็คิดออก คือเมื่อทำห้องเสร็จก็ปล่อยน้ำจากแม่น้ำผ่านท่อเข้ามา เมื่อเต็มห้องจึงผลักตู้คอนเทรนเนอร์ลงไป และในทางกลับกันเขาก็ต้องออกไปทางที่น้ำเข้ามา ในที่สุดเขาก็หาเจอและพาทุกคนออกมาได้ เลดิ๊กโทหักหลังฮอฟกินส์และฆ่าฮอฟกินส์ตาย

เลดิ๊กโทพร้อมมินห์และลูกน้องขนทองไปที่ชายแดนประเทศลาว หวังจะใช้เป็นทางผ่านขึ้นไปประเทศจีน แต่พวกของกริชก็ไม่ลดละแกะรอยตามมาแล้วเกิดการปะทะกัน แต่พวกกริชเสียเปรียบกำลังจะถูกฆ่าทั้งหมด ในขณะที่นายพลเหงียนวันตรี บาทหลวง ท่านฑูตเวียดนาม พร้อมด้วยพิชิต ได้นำกำลังพลมาช่วย แต่กริชและพวกจะมีชีวิตเพื่อรอให้ทุกคนมาช่วยได้ทันหรือไม่ สุดท้ายทองจำนวนมหาศาลจะตกเป็นสมบัติของใคร? ติดตามชมได้ในละคร ทอง ๙


รายชื่อนักแสดง

รังสิโรจน์ พันธ์เพ็ง รับบท กริช
มาริสา แอนนิต้า รับบท มิเชล
กัญจน์ ภักดีวิจิตร รับบท ร.ต.อ. ธันวา
ทราย เจริญปุระ รับบท แพรว
นุสรา สุขหน้าไม้ รับบท มายด์
โอลิเวอร์ บีเวอร์ รับบท โจอี้
กรุง ศริวิไล รับบท นายพลเหงียนวันตรี
อรรถชัย อนันตเมฆ รับบท พ.ต.อ.พิชิต
คาร์ล่า ปอร์เทอร์ รับบท ร้อยตรีมินท์

ตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์


ตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์


แนวละคร ดราม่า-แฟนตาซี


เรื่องย่อ


สองพันปีก่อน...ณ ดินแดนเกาหลีโบราณ เกิดการสู้รบกันระหว่างเผ่าสองเผ่าคือ เผ่าพยัคฆ์ และเผ่าหมี สวรรค์จึงส่งโอรสแห่งสวรรค์ ฮวางวุง พร้อมด้วยเทพผู้พิทักษ์ 3 องค์คือ จ้าวเมฆา ( มังกรเขียว-อูนซา ), วายุเทพ ( พยัคฆ์ขาว-พองแบ็ค ), พิรุณเทพ ( เต่านิล-ยอนมู ) ลงมาเพื่อทำให้โลกเกิดความสงบสุข แต่เสือย่อมมีสัญชาตญาณของนักล่าเผ่าพยัคฆ์เองก็เช่นกัน ประกอบกับเผ่านี้มีความสามารถในการบังคับพลังอัคคีได้ ซึ่งเผ่าพยัคฆ์ก็ได้ใช้พลังวิเศษนี้ในการต่อต้านฮวางวุงและเผ่าหมี ฮวางวุง รู้ถึงความน่ากลัวของพลังอัคคีดี จึงได้ดึงเอาพลังอัคคีจาก คาจิน หญิงสาวผู้ครอบครองพลังนี้แห่งเผ่าพยัคฆ์


และได้ส่งมอบพลังให้กับ เซโอ ราชินีแห่งเผ่าหมี พร้อมทั้งได้แต่งตั้งให้พลังอัคคีเป็นเทพหงส์ไฟ วันหนึ่งเมื่อ คาจิน ได้รับบาดเจ็บจากการรบกับเผ่าหมี ฮวางวุง ได้ใช้พลังแห่งเทพรักษาเธอด้วยความสุภาพและอ่อนโยนของ เขาทำให้ คาจิน ตกหลุมรัก ฮวางวุง ถึงขนาดยอมทรยศต่อเผ่าของตัวเองเพื่อ ฮวางวุง แต่แล้ว ฮวางวุง กลับเลือกแต่งงานกับ เซโอ


เหตุการณ์นี้ยังความโกรธแค้นให้กับ คาจิน อย่างมาก เธอจึงกลับมาเป็นผู้นำแห่งเผ่าพยัคฆ์อีกครั้ง เธอนำเผ่าพยัคฆ์จู่โจมเผ่าหมีและได้ลักพาตัวลูกที่เพิ่งเกิดของ เซโอ ไป เซโอ เข้าใจผิดคิดว่า คาจิน ได้ฆ่าลูกของเธอแล้ว ปลุกให้เทพหงส์ไฟในตัวของเธอตื่นขึ้นความโกรธทำให้เทพหงส์ไฟกลายเป็นหงส์ดำ ซึ่งมาพร้อมกับพลังทำลายล้างที่เธอเองก็ไม่สามารถควบคุมได้ ฮวางวุง ได้เรียกให้เทพผู้พิทักษ์ทั้ง 3 มาปราบหงส์ดำนั้น แต่ก็ไม่สามารถปราบลงได้


ผู้เดียวที่จะสามารถทำลายหงส์ดำได้คือ ฮวางวุง เขาจึงตัดสินใจสังหารหญิงอันเป็นที่รักด้วยมือของเขา คาจิน รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเธอจึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย การสูญเสียหญิงอันเป็นที่รักด้วยน้ำมือตัวเอง กับอีกหนึ่งชีวิตที่ดับสลายไปต่อหน้าต่อตาทำร้ายจิตใจ ฮวางวุง เกินกว่าที่เขาจะทนอยู่ในโลกมนุษย์ต่อไปได้ เหตุการณ์นี้ทำให้โลกได้รู้ถึงพลังอำนาจของเทพทั้ง 4และก่อนที่ ฮวางวุง จะกลับสวรรค์เขาได้สะกดพลังของเทพทั้ง 4 เอาไว้ และได้ทำนายไว้ว่าเมื่อดวงดาวแห่งราชาส่องแสง นั่นคือสัญญาณการจุติของมหากษัตริย์ผู้รวบรวม แคว้นโกคูรยอ เป็นหนึ่งเดียว และวันนั้นจะเป็นวันที่พลังแห่งเทพทั้งสี่ที่ถูกผนึกไว้จะถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง สองพันปีต่อมา...ชาวโคกูรยอต่างพากันรอคอยการกำเนิดของมหากษัตรย์ในตำนาน และแล้วในคืนหนึ่งเมื่อดวงดาวแห่งราชาปรากฏ


นั่นคือสัญญาณบ่งบอกถึงการจุติของจอมกษัตริย์ในตำนานที่ทุกคนรอคอย การเสาะแสวงหาของวิเศษทั้ง 4 จึงเริ่มต้นขึ้น ทุกชีวิตในอดีตกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งโดยที่พวกเขาจำสิ่งที่เคยทำมาในอดีตไม่ได้เลยเทพทั้ง 3 กลับมาเกิดใหม่ ราชินีแห่งเผ่าหมีและเผ่าพยัคฆ์ก็กลับมาเกิดใหม่เป็นพี่น้องกัน โดยที่ยังคงได้เป็นผู้สืบทอดพลังอัคคีเช่นเดียวกันกับในอดีตชาติ ซึ่งเธอต่างจำไม่ได้เลยว่าเคยเป็นคู่แข่งในสงคราม เหนือความรักและความตายเมื่อสองพันปีก่อน


ในคืนที่มหากษัตริย์ในตำนานได้ถือประสูติขึ้นมานั้น กลับมีโอรสเชื้อสายของกษัตริย์ที่ถือกำเนิดขึ้นมาถึงสองพระองค์ องค์หนึ่งเป็นทายาทสกุลยอนซึ่งสืบสายเลือดกษัตริย์มีชื่อว่า ยอนโฮเก อีกคนหนึ่งเป็นลูกชายของ โอจีจี พระอนุชาของพระราชาก็ได้ถือกำเนิดในคืนนี้เช่นเดียวกัน แต่ โอจีจี กลับให้ทุกคนรู้ว่าลูกชายของตนได้ถือกำเนิดสี่วันหลังจากคืนที่ดวงดาวแห่งราชาสุกสกาว ทารกนี้มีชื่อว่า ทัมต๊อก บางทีอาจไม่ถือเป็นเรื่องเลวร้ายเสียทีเดียว เนื่องจากฐานะ โอจีจี ไม่ได้โดดเด่นสักเท่าใดนัก อีกทั้งเหินห่างกับชนชั้นสูง โอจีจี ไปตั้งรกราก ณ สถานที่ที่ไกลจากวังหลวงมาก โดยเพาะปลูกเลี้ยงสัตว์ยังชีพ โอจีจี จงใจปกปิดฐานะที่แท้จริงเอาไว้ด้วย ไม่อยากให้ผู้ใดล่วงรู้ว่า ทัมต๊อก และยอนโฮเก ถือกำเนิดในวันเดียวกัน


ถ้าหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เชื่อว่าจะต้องนำมาซึ่งภัยพิบัติอย่างแน่นอน เนื่องจากหนึ่งแผ่นดินจะมีพระราชาสองพระองค์ไม่ได้ พระราชาผู้ปกครองแผ่นดินทรงไม่มีทายาท ยอนฮูหยิน พระขนิษฐาของพระองค์ซึ่งเป็นแม่ของ ยอนโฮเกจึงทูลเสนอให้ ยอนโฮเก เป็นองค์รัชทายาท แต่กลับถูกปฎิเสธ โอจีจี พระอนุชาของพระราชาดำรงตำแหน่งองค์รัชทายาท ก่อนที่พระราชาสวรรคตพระองค์ทรงมีรับสั่งเรียกประชุมเชื้อพระวงศ์และขุนนางน้อยใหญ่ ทำให้ทุกคนได้พบกับ โอจีจี และทัมต๊อก ลูกชายซึ่งตั้งรกรากยังสถานที่ไกลแสนไกลอีกครั้ง


ในเวลานี้เองทุกคนถึงรู้ว่าพระราชาทรงสถาปนา โอจีจี เป็นองค์รัชทายาท พระราชาพระองค์ใหม่เถลิงราชย์ในพระนาม พระเจ้ายังวัง แต่พระองค์กลับทรงไม่ได้รับความไว้วางใจจากชนชั้นสูง นอกจากนี้ยังต้องรับศึกเหนือใต้ที่ข้าศึกเข้ามารุกราน พระเจ้ายังวัง ทรงตั้งพระทัยว่าพระองค์เพียงรักษาบัลลังก์ไว้ชั่วคราวเท่านั้นพระราชาที่แท้จริงคือ ทัมต๊อก สิ่งที่พระองค์ทรงต้องทำคือคุ้มครอง ทัมต๊อก ให้ปลอดภัยจนกว่าจะถึงวันที่ ทัมต๊อก ขึ้นครองราชย์ ด้วยเหตุนี้ พระเจ้ายังวัง จึงทรงเข้มงวดต่อ ทัมต๊อก เป็นพิเศษ เนื่องจาก ทัมต๊อก เฉลียวฉลาด รวมทั้งมีความสามารถที่โดดเด่น ทัมต๊อก จะแสดงสิ่งเหล่านี้ให้ใครรู้ไม่ได้เป็นอันขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถของ ทัมต๊อก ที่เหนือกว่า ยอนโฮเก พระเจ้ายังวังทรงจำกัดบริเวณ ทัมต๊อก


ถึงแม้ว่า ทัมต๊อก ปฏิบัติตามความประสงค์ของพระบิดา ในใจกลับไม่เข้าใจว่าเหตุใด พระเจ้ายังวัง จึงทรงเข้มงวดกับตนเช่นนี้ นอกจากนี้ พระเจ้ายังวัง ยังทรงห้ามไม่ให้ ทัมต๊อก คบหาเพื่อนที่หอบัณฑิตรวมทั้งฝึกวรยุทธ พระองค์ทรงมีรับสั่งว่า ทัมต๊อก สุขภาพไม่แข็งแรง พระองค์จึงทรงทำเช่นนี้ แต่ ทัมต๊อก รู้แก่ใจดีว่าตนแข็งแรงมาก ดังนั้นจึงแอบศึกษาวรยุทธ แอบเข้าไปในหอหนังสือเพื่อศึกษาหาความรู้ วันหนึ่งขณะที่ ทัมต๊อก แอบเข้าไปอ่านหนังสือที่หอหนังสือ ทัมต๊อก ได้พบกับ คีฮา ธิดาเทพแห่งพรรคอัคคีเข้าโดยบังเอิญ คีฮา ไม่มีความทรงจำเมื่อครั้งเป็นเด็ก เมื่ออายุได้ห้าขวบถูกถูกพรรคอัคคีจับตัวไป นับแต่นั้นเป็นต้นมาบนไหล่ของนางก็มีรอยสักมาโดยตลอด ความทรงจำของนางสูญสิ้น แม้แต่ความทรงจำที่พรรคอัคคีฆ่าพ่อแม่ของนางก็สูญสิ้นไปด้วย นางจำได้แต่เพียงมีน้องสาวเท่านั้นแต่ก็หายสาบสูญไปคีฮา มีฐานะสูงศักดิ์ในพรรคอัคคี แม้แต่ผู้เฒ่าในพรรคยังให้ความเคารพยำเกรงนาง


สำหรับคนพรรคอัคคี คีฮา เป็นธิดาอัคคีที่ลงมาจุติตามตำนาน คืนที่ดวงดาวแห่งราชาสุกสกาว ได้มีหงส์ไฟปรากฏขึ้นที่บ้านสกุลเฮ ในเมืองแพกเจ พรรคอัคคีซึ่งรอคอยเหตุการณ์นี้อุบัติขึ้นนานนับพันปี ต่างพากันมาที่บ้านสกุลฮุ่ย ทุกคนพบว่าเด็กน้อยอายุเพียงห้าขวบสามารถ ใช้อำนาจหยกแดงสะกดเพลิงไม่ให้ทำร้ายนางเอง ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงปักใจเชื่อว่าเด็กน้อยคนนี้ก็คือธิดาอัคคีอย่างแน่นอน พรรคอัคคีพาเด็กน้อยพร้อมด้วยยกแดงกลับไปที่พรรคอัคคี ทำให้ทุกคนมีความหวังว่าชัยชนะอยู่เบื้องหน้าแต่หลังจากเหตุการณ์วันนั้น คีฮา ทำได้แต่เพียงใช้หยกแดงจุดเทียนไขหรือไม่ก็จุดฟืนเท่านั้น


ซึ่งไม่เหมือนแรกเริ่มที่สามารถสำแดงอิทธิฤทธิ์ ด้วยเรื่องนี้ทำให้ผู้เฒ่าของพรรคเชื่อว่า เมื่อครั้งที่มหาเทพสะกดของวิเศษสามสิ่งไว้นั้น อิทธิฤทธิ์ของหงส์ไฟก็สูญสลายไปด้วย เว้นแต่จะทำลายมนต์สะกดธิดาอัคคีก็จะสำแดงอิทธิฤทธิ์ขึ้นมาอีกครั้ง ผู้เฒ่าพรรคอัคคีคิดว่าของวิเศษอีกสามสิ่งที่ถูกสะกดไว้ จะต้องตกเป็นของพรรคด้วยเช่นเดียวกัน เมื่อ คีฮา อายุได้สิบห้าปีก็ต้องติดตามบรรดาผู้เฒ่าพรรคไปที่แท่นบูชาฟ้าดิน แท่นบูชาฟ้าดินได้มอบชีวิตใหม่ให้ คีฮา โดยมีภารกิจสำคัญสองอย่างที่นางต้องทำภารกิจแรกต้องจับกุมตัว ยอนโฮเก ซึ่งถือกำเนิดในคืนที่ดวงดาวแห่งราชาสุกสกาวมาให้ได้ การทำลายมนต์สะกดนั้นต้องใช้เลือดของมหาราชา ภารกิจที่สองคือพำนักอยู่ที่แท่นบูชาฟ้าดินเพื่อรอรับฟังข่าวคราวของวิเศษ คีฮา ซึ่งถูกยกให้เป็นธิดาอัคคีนั้น สำหรับนางแล้วการมีชีวิตอยู่ก็เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของพรรคอัคคี ภารกิจสองอย่างเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของนาง อย่างน้อยที่สุดก่อนที่จะได้พบกับ ทัมต๊อก


นางก็คิดเช่นนี้มาโดยตลอด ทัมต๊อก และคีฮา ทั้งสองซึ่งอ้างว้างโดดเดี่ยวได้พบกันในที่สุด ทัมต๊อก ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพระบิดาอย่างเคร่งครัด ทำให้ไม่มีความเป็นตัวของตัวเองส่วน คีฮา นั้นได้รับแรงกดดันจากภารกิจที่ได้รับมอบหมายที่ต้องเป็นธิดาอัคคี ทำให้นางไม่สามารถดำรงชีวิตตามที่นางต้องการ ในเวลานี้นางถูกส่งมายังดินแดนข้าศึก นางจะต้องเป็นสายรายงานความเคลื่อนไหว ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงเห็นใจกันและกันเป็นอย่างดี ความจริงแล้วสำหรับคีฮานั้น ทัมต๊อก ไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของนางแต่อย่างใด คนที่นางต้องให้ความสำคัญคือ ยอนโฮเก ต่างหาก


ที่นางต้องนำข่าวคราวไปรายงาน แต่ไม่แน่ว่า ทัมต๊อก อาจเป็นคนที่ขัดขวางภารกิจของนางก็เป็นได้ แต่เมื่อ คีฮา คบหากับ ทัมต๊อก ได้ระยะหนึ่ง ความรู้สึกที่นางมีต่อ ทัมต๊อก ก็เปลี่ยนไปนางรู้สึกว่าช่วงเวลาที่อยู่กับ ทัมต๊อก เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากที่สุด บรรดาผู้เฒ่าของพรรคอัคคีต่างพากันย้ำเตือน คีฮา อย่าได้ใจอ่อนเป็นอันขาด สำหรับ ทัมต๊อก รู้สึกว่า คีฮา เป็นคนสำคัญ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ทัมต๊อก ซึ่งสูญเสียแม่ตั้งแต่เล็กนั้น คีฮา เป็นเหมือนแม่ เป็นเหมือนพี่สาว ที่มอบความรักความอบอุ่นที่ตนไม่เคยได้รับจากพ่อ ทุกคืนขณะที่ฝึกวรยุทธ คีฮา ก็เป็นเหมือนเพื่อนที่อยู่เคียงข้าง กาลเวลาผ่านไป ทัมต๊อก และคีฮา ก็รักกัน ทัมต๊อก หลบหนีออกจากวังหลวงราวกับนักโทษที่แหกคุกออกมา ทัมต๊อก ชอบแต่งตัวเป็นชาวบ้านเดินไปตามท้องถนน โดยสามารถรับฟังเรื่องราวต่างๆ มากมายต่อมา ทัมต๊อก ก็ได้พบกับ ซูจีนี ซูจีนีเป็นน้องสาวของ คีฮา ในวันที่สกุลเฮถูกพรรคอัคคีทำลาย แม่ได้มอบหัวใจของหงส์ไฟให้


คีฮา จากนั้นก็กำชับให้ คีฮา ดูแลซูจีนีให้ดี ขณะที่เทพแห่งความตายมาเอาชีวิตของเด็กทั้งสองนั้น หัวใจของหงส์ไฟก็สำแดงอิทธิฤทธิ์คุ้มครองสองพี่น้องเอาไว้ พรรคอัคคีไม่พบ ซูจีนี ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในถังข้าว ดังนั้นจึงพาแต่ คีฮา และหงส์ไฟกลับไปเท่านั้น พรรคอัคคีหารู้ไม่ว่าแท้ที่จริงแล้วคนที่ทำให้หงส์ไฟสำแดงอิทธิฤทธิ์คือ คีฮา หรือซูจีนี กันแน่ เนื่องจากทั้งสองเป็นลูกสาวบ้านสกุลเฮด้วยกันทั้งคู่ คนที่พบ ซูจีนี ที่ซ่อนตัวอยู่ในถังข้าวในคืนนั้นก็คือ ยอนโก ซึ่งก็คือพิรุณเทพกลับชาติมาเกิดนั่นเองในเวลานั้น ยอนโก มีอายุครบสิบห้าปี เมื่อ ซูจีนี พบเห็น ยอนโก นางก็ยิ้มให้ ยอนโก บรรดาผู้เฒ่าของหมู่บ้านเมื่อพบเห็น ซูจีนี เนื่องจากหงส์ดำเป็นอัปมงคล ทำให้ไม่มีใครกล้าชุบเลี้ยง ซูจีนี เอาไว้ มีเพียง ยอนโก เท่านั้นที่เชื่อว่า ซูจีนี เป็นหงส์ไฟไม่ใช่หงส์ดำ ด้วยเหตุนี้ ยอนโก จึงอุ้ม ซูจีนี ซึ่งอายุไม่ถึงขวบขอร้องให้บรรดาผู้เฒ่าชุบเลี้ยงนางไว้ บรรดาผู้เฒ่าไม่อยากฆ่าเด็กบริสุทธิ์ ดังนั้นจึงตัดสินใจชุบเลี้ยง ซูจีนี เอาไว้


สำหรับทุกคนแล้วต่างหวาดกลัวทายาทของหงส์ดำด้วยกันทั้งนั้น หงส์ไฟซึ่งกลับมาจุติพร้อมกับมหาราชานั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นไปตามตำนานหรือไม่ หากเป็นไปตามตำนานเมื่อใดที่โกรธแค้นขึ้นมา ก็จะกลายเป็นหงส์ดำทำลายล้างบ้านเมืองหรือไม่โลกใบนี้จะลุกเป็นไฟอีกครั้งหรือไม่ ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงก็ควรจะรีบขจัดภัยพิบัตินั้นโดยเร็วที่สุด แต่ ยอนโก กลับคัดค้านความคิดเห็นนี้มาโดยตลอด ในคืนนั้นผู้เฒ่าเตือน ยอนโก ซึ่งอุ้ม ซูจีนี ว่านับแต่นี้เป็นต้นไปขอให้ดูแลเด็กคนนี้ให้ดี ถ้าหากวันใด ยอนโก พบว่า ซูจีนี เป็นหงส์ดำก็ขอให้ ยอนโก กำจัดนางทันที ซูจีนี เป็นผู้หญิงคนเดียวของหมู่บ้าน นางเคารพนับถือ ยอนโก เป็นอาจารย์ นางถอดอุปนิสัยของอาจารย์มาจนหมดสิ้น นางเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เติบโตในหมู่บ้าน ทำให้อุปนิสัยนางไม่เหมือนผู้หญิง สิ่งที่ผู้ชายทำได้นางทำได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการพนัน ลักขโมย ยิงธนู วรยุทธวันหนึ่งก่อนที่ผู้เฒ่าจะสิ้นใจได้เรียกชาวบ้านมาชุมนุมกัน


ผู้เฒ่าได้มอบพลองวิเศษให้ผู้นำหมู่บ้านคนใหม่ ทันใดนั้นเองพลองวิเศษก็ลอยขึ้นฟ้าหมุนอยู่หลายรอบ จากนั้นก็ตกลงตรงหน้าผู้นำคนใหม่นั่นก็คือ ยอนโก ผู้นำคนใหม่ของหมู่บ้านได้ถูกเลือกสรรแล้ว ชะตากรรมของ ทัมต๊อก, คีฮา, ซูจีนี และยอนโฮเก ที่ต่างเติบโตเป็นผู้ใหญ่จะเป็นอย่างไรต่อไป เมื่อเส้นทางแห่งสงครามเหนือความรักและความตาย เมื่อสองพันปีก่อนกำลังหวนกลับมา พบเรื่องราวอันเข้มข้นของการแย่งชิงอำนาจ และเรื่องราวของตำนานจอมกษัตริย์กับเทพผู้พิทักษ์ทั้ง 4 ได้ใน ตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์


รายชื่อนักแสดง

เบยองจุน รับบท ฮวางวุง / ทัมต๊อก

มูนโซริ รับบท คาจิน / คีฮา

ลีจีอา รับบท เซโอ / ซูจีนี

โอวางรก รับบท พิรุณเทพ ยอนมู ( เต่านิล ) / ยอนโก
ข้อมูลจากช่อง 3